Chat with us!
Instagram

Mitsu RMA

7 How To บริหารเวลาอย่าง Productive

บริหารเวลาอย่าง Productive ได้อย่างไร?

Tips : 24 Hours Time Manage

การ บริหารเวลาอย่าง Productive และคุ้มค่ามากที่สุด ควรเริ่มตั้งแต่ช่วงตื่นนอนยามเช้าจนถึงช่วงก่อนนอน ซึ่งถ้าหากพูดตามภาษาบ้านๆ ก็คือ 24 ชั่วโมงนั่นเอง โดยเราสามารถค่อย ๆ ปรับพฤติกรรมทีละนิดทีละหน่อย ไม่ควรจริงจังกับการบริหารจนเกินไป เหมือนการบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ สุดท้ายเราจะเหนื่อยและล้มเลิกกับการบริหารเวลาไปเอง โดยเราสามารถประเมินว่าในแต่ละวันเราบริหารเวลาได้อย่างคุ้มค่าหรือไม่ ควรปรับปรุงในข้อไหน หรือสิ่งไหน เพราะการประเมินเปรียบได้กับการให้ Feedback ตัวเอง

การนอนที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

โดยอ้างอิงจากวิจัยการแพทย์อย่างหลากหลายฉบับว่า แท้จริงแล้วร่างกายมนุษย์ในแต่ละวัยต้องการเวลาพักผ่อนที่แตกต่างกัน ร่างกายต้องการฟื้นฟูคนละแบบ ร่างกายจะสดชื่นหากได้พักผ่อนอย่างเพียงพอและสมดุล แต่ในทางกลับกันหากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็ส่งผลให้วันนั้นกลายเป็นวันที่ไม่สดใส หงุดหงิดง่าย หัวตื้อ ไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานหรือเรียน

  • วัยเด็ก : เฉลี่ย 9 ถึง 11 ชั่วโมงต่อวัน
  • วัยรุ่น  : เฉลี่ย 8 ถึง 10 ชั่วโมงต่อวัน
  • วัยกลางคน (อายุ 18 ถึง 25 ปี) : เฉลี่ย 7 ถึง 9 ชั่วโมงต่อวัน
  • ผู้ใหญ่ : เฉลี่ย 7 ถึง 9 ชั่วโมงต่อวัน
  • ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป) : เฉลี่ย 7 ถึง 9 ชั่วโมงต่อวัน

ควรมีการเตรียมพร้อมในช่วงเวลาก่อนเข้านอน เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออย่างเพียงพอ และควรจัดระเบียบการนอนให้เป็นนิสัย เพราะการนอนนั้นสำคัญมาก ย้ำ! สำคัญมาก ๆ

  • หมั่นเข้านอนตรงเวลาอย่างเป็นประจำ
  • จัดห้องนอนให้เป็นระเบียบ สะอาดและสงบอยู่ตลอดเวลา
  • ชิ้งฉ่องก่อนนอน เพื่อป้องกันการตื่นกลางดึก และควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำแก้วใหญ่ก่อนนอน
  • งดเล่นโซเซียลมิเดียเวลาก่อนนอนประมาณ 45 – 60 นาที
  • ไม่จิบหรือดื่มเครื่องดื่มทีมีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ก่อนนอน

ขยับร่างกายให้ร่างกายตื่นตัว

การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนมองข้าม อาจจะออกแบบการออกกำลังกายให้เหมาะกับเวลาที่เร่งรีบยามเช้าก็ได้ แต่ถ้าเวลาเหลือเฟือยามเช้า การวิ่งจ๊อกกิ้งเบา ๆ หรือโยคะยามเช้า ดูเป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับการขยับร่างกายมากที่สุด หัวใจสูบฉีด ร่างกายสดชื่น ฝึกสมาธิกับการจดจ่อการหายใจ และประโยชน์อีกมากมายที่คาดไม่ถึง สำหรับคนที่มีเวลาไม่มากอาจจะทำท่าบริหารร่างกายยืดกล้ามเนื้อหรือเต้นเบา ๆ สักประมาณ 10 – 15 นาที ก็โอเคแล้ว แต่ต้องบริหารจัดการเวลาอย่างดีที่สุด ขืนมัวแต่ออกกำลังกายแล้วไปเข้างานสายคงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจัดการของแต่ละคน ซึ่งอาจจะดีไซน์การออกกำลังกายไปไว้ช่วงเย็นก็ได้ แต่อย่าลืมไปว่าการบริหารเวลาที่ดีนั้น สุขภาพจะต้องดีตามด้วย

‘To Do List & Prioritize’ เพื่อนที่ Productive ที่สุด

หลายครั้งที่เราหลงลืมว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง แต่ละช่วงเวลาควรใช้เวลาประมาณกี่นาที ถ้าหากว่าสมาธิแน่วแน่กับการทำงานไม่เพียงพอแล้วล่ะก็มักจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง การเขียน To Do List เปรียบได้กับการเขียนลิสต์ในแต่ละวันว่าต้องทำอะไรให้ออกมาเป็นรูปธรรม หลังจากเราเห็นลิสต์ทั้งหมดแล้ว เราก็จะสามารถลำดับความสำคัญ หรือ Prioritize (แนวคิด Eisenhower Matrix) ของแต่ละกิจกรรมได้อย่างง่ายดาย ไม่เสียเวลาไปกับการมานั่งนึกว่าต้องทำอะไรก่อนหรือหลังดี หลังจากที่เราค่อย ๆ ปรับการทำงานด้วยวิธีเขียน To Do List และ Prioritize แต่ละชิ้นงานที่ต้องที่ต้องทำเป็นประจำแล้ว อาจจะทำไปปรับใช้กับกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ร่วมด้วย

  • Urgent and important – งานที่สำคัญและเร่งด่วน 
  • Urgent but not important – งานที่เร่งด่วน แต่ไม่สำคัญ 
  • Important but not urgent – งานที่สำคัญ แต่ไม่เร่งด่วน 
  • Not important and not urgent – งานที่ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน

Limit Social Media and Internet use ห่างกันบ้างก็ดี

การรักษาระยะห่างจากโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำมาก ประโยชน์ของมันก็มีไว้เพื่อให้เรา Keep In Touch กับเพื่อน ๆ รับรู้ข้อมูลข่าวสาร ดูคลิปตลก ๆ เป็นสิ่งที่ทำให้เราเพลิดเพลินอารมณ์ ปลดปล่อยความเครียดจากการทำงาน แต่ถ้าเราเสพติดจนไม่สามารถรักษาระยะห่างกับมันได้ล่ะ? รู้หรือไม่ว่าคนส่วนใหญ่มักเสียเวลาไปกับการท่องโลกอินเตอร์เน็ต และฝังตัวอยู่บนโซเชียลมีเดียนานเกินกว่าเวลาที่กำหนดอยู่มาก ทำให้เสียเวลาการทำงานหรือเสียเวลาทำมาหากิน บางคนก็ใช้โซเชียลมีเดียในทางที่ผิด เช่น การเสพสื่อที่ก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่โอเค การดูข่าวที่มีความตึงเครียดจนเกินไป ซึ่งสมองของมนุษย์อาจจะได้รับพลังงานด้านลบมา จนทำให้เป็นเอฟเฟคในภายหลัง และไม่ควรดูสื่อด้านลบช่วงก่อนนอน เพราะจะทำให้หลับไม่สบายตัว

  • กำหนดช่วงเวลาการใช้ Social Media 
  • งดการเสพสื่อช่วงก่อนนอน ประมาณ 45 – 60 นาที
  • ใช้วิจารณญาณในการรับชม 
  • เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นเท่านั้น 
  • ถ้ารู้สึกว่าติดโทรศัพท์มากจนเกินไป ให้จัดการด้วยวิธี Social Detox 
  • ปิดแจ้งเตือนใน Application ที่ไม่จำเป็น 
  • ไม่ใช้ Social Media ระหว่างช่วงทำงาน
  • อ่านหนังสือแทนการเล่นโทรศัพท์

Put the Calendar nearby you

นอกจาก To Do List จะทำให้เราสามารถเห็นสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันอย่างเป็นรูปธรรมได้แล้ว ปฏิทินเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต่อการทำงานมาก ๆ แต่เนื้อหาการเขียนงานบนปฏิทินอาจจะกว้างกว่า To Do List เช่น การเขียนเดดไลน์ส่งงานในวันที่ XX โดยการทำแบบนี้จะทำให้การส่งงานของเราอยู่ในช่วงเวลาที่กำหนดตลอด หรืออาจจะทำให้เรารู้ว่าในวันนั้น ๆ เราต้องจ่ายค่าน้ำ – ไฟ มีประชุม นัดพบลูกค้า ซึ่งปัจจุบันไม่จำเป็นจะต้องเขียนบนปฏิทินตั้งโต๊ะอย่างเดียวเท่านั้น สำหรับคนที่ใช้ระบบออนไลน์ ระบบปฏิบัติการ IOS หรือ Android อย่าง iCloud หรือ Google Cloud Platform ก็สามารถใช้ปฏิทินบน Browser ได้ ที่สำคัญยังมีแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาใกล้นัดหมาย และสามารถจัดแต่งปฏิทินได้ตามใจชอบ ความพิเศษของปฏิทินระบบคลาวด์ คือ ไม่ว่าจะแก้ไขข้อมูลบนอุปกรณ์ไหนที่ Login User เดียวกันไว้ ก็จะบันทึกและอัปเดตให้โดยอัตโนมัติทุกแพลตฟอร์ม

Take A Break พักบ้างเถอะนะคนดี

เคยได้ยินหรือไม่? ถ้าตาล้าให้มองอะไรสีเขียว ๆ เมื่อทำงานไปสักระยะหนึ่ง ร่างกายจะเกิดความเหนื่อยล้าชั่วขณะ เพียงแค่ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที ละสายตาออกจากหน้าจอคอม ตัวหนังสือ หันไปมองวิวสบาย ๆ นอกหน้าต่างดู หรือจะใช้วิธีหลับตาลงแล้วกลิ้งลูกตาไปมา ประคบตาด้วยแผ่นอุ่นประคบ รับรองดวงตากลับมาสดใสพร้อมลุยงานต่อโดยใช้เวลาเพียง 5 นาที หรือถ้าหากต้องการพักสมองจากการทำงาน แนะนำให้ลุกออกจากโต๊ะทำงาน แกว่งแขน หรือทำกายบริหารฉบับสั้น ๆ เพื่อให้สมองหยุดคิดเรื่องงานสักพัก

Plan For Tomorrow เตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้

รู้จักเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในวันถัดไป ช่วงเช้าบางคนถูกจำกัดด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ อาจจะมีเวลามากไม่พอที่จะเตรียมตัวในตอนเช้า ทำให้กลายเป็นเช้าที่เร่งรีบ เช่น เสียเวลาเลือกเสื้อผ้านานมากเพราะไม่รู้จะใส่เสื้อผ้าอะไรในวันถัดไป ลืมของสำคัญที่ต้องใช้ไว้ที่บ้าน ฉะนั้นการวางแผนล่วงหน้าจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เราสามารถบริหารเวลาอย่าง Productive ลองสังเกตดี ๆ หากวันนั้นเริ่มต้นวันด้วยความพร้อม พลังงานในร่างกายเราก็จะเต็มเปี่ยมไปด้วย Positive Energy ส่งผลให้วันนั้นการทำงานหรือการเรียนลื่นไหลอย่างไม่น่าเชื่อ โดยวิธีการเตรียมตัวสำหรับวันถัดไป ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคน บางคนถนัดแบบจดใส่กระดาษ หรือบางคนอาจจะถนัดจดในโทรศัพท์ หรือวิธีที่ง่ายที่สุดคือจัดเตรียมไว้ตั้งแต่ช่วงเย็นในแต่ละวันก็ได้ เช่น พรุ่งนี้มีสิ่งของที่จะต้องนำไปทำงานด้วย เราก็จัดเตรียมโดยการนำใส่กระเป๋าในเย็นวันนี้ เพื่อป้องกันการลืมหยิบไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ทุกคนมีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง แต่ด้วยภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน จึงทำให้บางคนเหมือนมีเวลาใช้ชีวิตเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ยิ่งคนที่มีครอบครัวแล้ว ก็ยิ่งดูเหมือนมีเวลาส่วนตัวน้อยลง ลองนำวิธี บริหารเวลาอย่าง Productive ไปปรับใช้กับการใช้ชีวิตประจำวัน วันละนิดวันละหน่อยจนติดเป็นนิสัย รับรองการจัดสรรเวลาให้เป็นแบบมืออาชีพจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ใช้เวลาอย่างคุ้มค่าที่สุด มีเวลาดูแลตัวเอง การทำงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมสุขภาพทั้งกายและจิตใจยังแอบดีขึ้นแบบอ้อม ๆ อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : verywellhealth.com

——————— Mitsu RMA ยินดีให้บริการ ———————

Inbox : m.me/mitsurma
Link Line : https://line.me/R/ti/p/%40mitsurma
Line ID : @mitsurma
มิตซูลุมพินี : 02-059-4488, 089-9274024
มิตซูพระราม3 : 02-292-1531, 084-387-9425
Google Map มิตซูลุมพินี : https://bit.ly/2RAQsgk
Website : https://www.mitsurma.com/

ป้ายกำกับ

0
    ตะกร้าสินค้า
    ตะกร้าสินค้าว่างเปล่ากลับสู่ร้านค้า