เช็ควิธีป้องกันและจัดการน้ำเข้ารถ
ในช่วงฤดูฝน มีหลายสถานการณ์ที่อาจทำให้รถเกิดปัญหาได้ สิ่งเหล่านี้มีตั้งแต่อุบัติเหตุไปจนถึงน้ำท่วมที่ไม่คาดคิด สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจวิธีป้องกันน้ำเข้ารถและทำให้รถเสียหาย นอกจากนี้ การรู้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรหากน้ำท่วมรถก็เป็นสิ่งสำคัญ ให้เราเจาะลึกในหัวข้อเหล่านี้และสำรวจมาตรการที่จำเป็นในการปกป้องยานพาหนะของเรา
1
ขับลุยน้ำไปดีมั้ย
ก่อนจะเหยียบคันเร่ง สิ่งสำคัญคือต้องประเมินระดับน้ำเพื่อตรวจสอบว่าอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อรถได้มากหรือไม่ เราสามารถวัดความสูงของน้ำได้ง่ายๆ โดยสังเกตจากรถข้างหน้าหรือข้างๆ และถ้าน้ำสูงเกินขอบประตูรถด้านล่างหรือเกินครึ่งล้อ แนะนำว่าอย่าเสี่ยงที่จะขับต่อไป เนื่องจากการขับรถลุยน้ำลึกเช่นนี้อาจส่งผลให้น้ำไหลซึมเข้าไปในห้องโดยสาร อาจทำให้ระบบต่างๆ ของรถเสียหาย และอาจทำให้เครื่องยนต์ขัดข้องได้ หรืออาจดับกลางคันเลยก็ได้
2
ขับลุยน้ำอย่างปลอดภัย
หากคุณกำลังขับรถและเผชิญกับน้ำท่วมถนน สิ่งสำคัญคือต้องเดินหน้าต่อไปในทิศทางที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องประเมินระดับน้ำก่อนดำเนินการ หากระดับน้ำไม่สูงเกินขอบประตูรถด้านล่างหรือไม่เกินครึ่งล้อรถยังสามารถขับต่อไปได้ เพื่อป้องกันน้ำเข้ารถ อาจส่งผลต่อห้องเครื่องหรือระบบไฟฟ้า แนะนำให้ปิด แอร์ เพื่อไม่ให้พัดลมทำงาน นอกจากนี้ คุณควรลดความเร็วในการขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีรถคันอื่นจอดอยู่ใกล้ๆ วิธีนี้จะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงผลกระทบจากคลื่นน้ำ ที่เข้าใจกันอย่างง่ายคือแรงปะทะจากคลื่นน้ำ ซึ่งอาจทำให้รถของคุณเสียหายได้
3
เช็ครถหลังขับลุยน้ำ
หลังจากขับผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง จำเป็นต้องเหยียบเบรกซ้ำๆ เพื่อไล่น้ำที่อาจสะสมอยู่บนจานเบรก สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบส่วนประกอบที่เป็นของเหลวต่างๆ ของรถ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ และน้ำมันเบรก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งผิดปกติ เช่น การมีน้ำ หากพบปัญหาใด ๆ ควรนำรถไปที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถ นอกจากนี้ อาการผิดปกติใดๆ เช่น มีเสียงแปลกๆ เมื่อเลี้ยว หรือบังคับเลี้ยวหรือเบรกลำบาก ควรตรวจสอบและแก้ไขที่ศูนย์บริการทันที
4
ไล่ความชื้นออกจากรถ
- ในการขจัดความชื้นออกจากรถของคุณอย่างทั่วถึง ให้เริ่มด้วยการใช้เครื่องเป่าลมเพื่อทำให้บริเวณต่างๆ รวมถึงปลั๊กไฟและขั้วแบตเตอรี่แห้ง หากน้ำเข้าไปถึงกล่องฟิวส์ ให้เช็ดทำความสะอาดก่อนใช้เครื่องเป่าลมให้แห้งสนิท
- ฉีดสเปรย์ไล่ความชื้นที่ขั้วแบตเตอรี่และปลั๊กไฟอื่นๆ แม้ในบริเวณที่เข้าถึงยาก
- ทำความสะอาดภายในรถรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ แล้วตากแดด เพื่อป้องกันเชื้อรา เชื้อโรค และกลิ่นไม่พึงประสงค์
- สำหรับภายนอก ให้ล้างและเช็ดรถให้แห้ง แล้วจอดรถไว้กลางแดดโดยเปิดประตู หน้าต่าง และฝากระโปรงหน้ารถไว้เพื่อให้รถแห้งสนิท ป้องกันสนิมและการเจริญเติบโตของเชื้อราและเชื้อโรค
การจัดการเมื่อน้ำเข้ารถ
1
เตรียมพร้อม
ในสถานการณ์ที่น้ำท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีความเสี่ยงที่จะระบายไม่ทัน สิ่งสำคัญคือต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสียหายและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ข้อควรระวังประการหนึ่งคือการถอดสายไฟที่เชื่อมต่อแบตเตอรี่กับรถยนต์ออก วิธีนี้จะป้องกันการลัดวงจรที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากมีน้ำอยู่
- สิ่งสำคัญคืออย่าพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะอาจส่งผลให้เกิดไฟฟ้าช็อตและกลไกภายในของรถเสียหายได้ ให้เน้นไปที่การถอดแบตเตอรี่ออกจากช่องเก็บของอย่างปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
2
หาพื้นที่แห้ง
ในกรณีที่รถจมอยู่ในน้ำ สิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการทันทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายเพิ่มเติมกับรถ ควรคิดหาวิธีการเคลื่อนย้ายรถออกจากพื้นที่น้ำท่วมอย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นการดันรถหรือติดต่อบริการลากรถเพื่อดึงรถออกโดยด่วน
3
ประเมินความเสียหาย
หลังจากน้ำลดแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกรถอย่างละเอียดเพื่อหาความเสียหายเบื้องต้นที่อาจเกิดจากน้ำเข้ารถหรือน้ำท่วม สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับการซ่อมแซมที่จำเป็นได้ดีขึ้น นอกจากนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่คุณต้องติดต่อผู้ให้บริการประกันภัยรถยนต์ของคุณเพื่อแจ้งสถานการณ์และเริ่มกระบวนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่สำคัญเหล่านี้ คุณจะมั่นใจได้ว่ารถของคุณจะกลับคืนสู่สภาพเดิมก่อนเกิดน้ำท่วม และได้รับความคุ้มครองเต็มจำนวนสำหรับค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซม
4
เรียกประกัน
- ตรวจสอบเงื่อนไข รายละเอียด และความคุ้มครองของกรมธรรม์ว่าครอบคลุมอะไรบ้าง ประกันของคุณได้ครอบคลุมความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่
- จดบันทึกรายละเอียดความเสียหายทั้งหมดของรถ รวมถึง วัน เวลา และสถานที่ที่รถได้รับความเสียหายไว้เพื่อเป็นหลักฐานและรายละเอียดเพื่อยื่นให้กับประกัน
- ถ่ายรูปรถ ขณะที่น้ำท่วม และพยายามให้เห็นป้ายทะเบียนรถ
- ถ่ายรูปรถ เมื่อน้ำลดลงแล้ว โดยถ่ายความเสียหายให้ครบรอบคันอย่างชัดเจน ทั้งภายนอกและภายในรถ รวมถึงห้องเครื่องรถด้วย
- ติดต่อแจ้งบริษัทประกันภัย และนัดหมายตรวจสภาพความเสียหายของรถ
ขอบคุณข้อมูล : www.jaymartinsurance.co.th
——————— Mitsu RMA ยินดีให้บริการ ———————
Inbox : m.me/mitsurma
Link Line : https://line.me/R/ti/p/%40mitsurma
Line ID : @mitsurma
มิตซูลุมพินี : 02-059-4488, 089-9274024
มิตซูพระราม3 : 02-292-1531, 084-387-9425
มิตซู อาร์เอ็มเอ รามคำแหง :02-718-5060
Website : https://www.mitsurma.com/