โช๊ครั่วข้างเดียว ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งสองข้างเลยไหม?
“โช๊คอัพ” (Shock Absorber) ถือว่าเป็น ส่วนประกอบชิ้นสำคัญ ของรถยนต์ เพราะทำหน้าที่ รองรับแรงกระแทก ของตัวถังรถ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือน ของรถยนต์ รวมถึงทำหน้าที่ หน่วงการเคลื่อนที่ ขึ้นและลง ของตัวถังรถ เพื่อให้ล้อรถ สัมผัสกับผิวถนน ตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลา ที่ต้องขับบนผิวถนน ที่ไม่ราบเรียบ เป็นหลุมเป็นบ่อ จะช่วยให้การขับรถ เป็นไปอย่าง นุ่มนวลมากขึ้น และควบคุมรถได้ง่าย ดังนั้น หากโช้ครั่ว หรือเสียหาย ก็จะส่งผลต่อ ความปลอดภัย ของผู้ขับขี่ ได้นั่นเอง
โช๊คอัพมีกี่ประเภท
โช๊คอัพ สามารถ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ตามการทำงาน ดังนี้
1. โช๊คอัพน้ำมัน
โช๊คอัพประเภทนี้ จะทำงานโดยใช้ น้ำมันไฮดรอลิค ในการทำให้ เกิดความหนืด โดยน้ำมันไฮดรอลิค จะไหลผ่านไปทางวาล์ว ที่อยู่ในลูกสูบ ซึ่งจะมีข้อเสียตรง ระหว่างที่โช้คอัพ กำลังทำงาน อาจจะทำให้ น้ำมันไฮดรอลิค เกิดฟองอากาศขึ้น และทำให้โช้คอัพ ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โช้คอัพน้ำมัน จึงเหมาะสำหรับ รถยนต์ทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ได้ต้องการ การใช้ที่งาน ที่สมบุกสมบันมากนัก
2. โช๊คอัพแก๊ส
โช๊คอัพประเภทนี้ ค่อนข้างได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นการ ทำงานร่วมกัน ระหว่างแก๊สไนโตรเจน และน้ำมันไฮดรอลิค โดยหากโช๊คอัพ เกิดแรงสั่นสะเทือน ลูกสูบจะเคลื่อนลงมาด้านล่าง ของกระบอกสูบ แล้วน้ำมันไฮดรอลิค ที่อยู่ในกระบอกสูบ ก็จะไหลผ่าน ทางวาล์ว ไปยัง ห้องน้ำมันสำรอง กลับเข้าสู่ กระบอกสูบตามเดิม สิ่งที่แตกต่าง จากโช้คอัพน้ำมัน คือแรงดันที่เกิดขึ้น จะทำให้ไม่เกิด ฟองอากาศ ขึ้นนั่นเอง โช้คอัพแก๊ส จึงเหมาะสำหรับรถยนต์ ที่ต้องการใช้งาน ที่ค่อนข้างสมบุกสมบัน หรือบรรทุกหนัก
อายุการใช้งานของโช๊คอัพ
ปกติแล้ว โช้คอัพ มีอายุการใช้งาน เฉลี่ยอยู่ที่ 50,000-100,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 3-5 ปี ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับ การใช้งานรถยนต์ ของแต่ละคนด้วย หากใช้งาน อย่างสมบุกสมบัน ก็อาจจะทำให้ โช้คอัพเสื่อมสภาพไวขึ้น
อาการโช๊คอัพเสื่อมสภาพ
- รถมีอาการโคลงเคลง โดยเฉพาะตอนเข้าโค้ง หรือเปลี่ยนเลน
- เมื่อขับบนผิวถนนขรุขระ จะเกิดเสียงดัง และมีแรงกระแทก รุนแรงกว่าปกติ
- เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง จะควบคุมรถได้ยากกว่าปกติ หรือรถเสียการทรงตัว
- รถมีอาการเด้งขึ้น-ลง ไม่นุ่มนวล
- ทดสอบด้วยการกดบริเวณโช้คอัพ หากรถโยกขึ้นลงเร็ว ๆ แสดงว่าเกิดการเสื่อมสภาพแล้ว
- สังเกตที่ดอกยางรถยนต์ จะเกิดการสึกเป็นบั้ง ๆ เนื่องจากโช้คอัพ ซับแรงกระแทกได้ลดลง
- มีคราบน้ำมันรั่วซึมออกมาจากโช๊คอัพ
- เมื่อออกตัว หน้ารถจะเชิดขึ้นมากกว่าปกติ หรือเมื่อเบรกด้วยความเร็วต่ำ แล้วหน้ารถทิ่มลง
สาเหตุที่ทำให้โช๊คอัพรั่ว
ปัญหาโช๊คอัพรั่ว คือการที่ น้ำมันไฮดรอลิค รั่วซึมออกมา จากซีลโช้คอัพ ส่งผลให้ โช้คอัพ ไม่สามารถทำงาน ได้ตามปกติ โดยมักจะมีสาเหตุ มาจากพฤติกรรม ดังต่อไปนี้
- ใช้งานหนักเกินไป ไม่ว่าจะเป็น การบรรทุกหนักเป็นประจำ การขับขี่ด้วยความเร็วสูง หรือขับขี่บนผิวถนนที่ขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่ออยู่บ่อย ๆ ทั้งหมดนี้ เป็นสาเหตุ ที่ทำให้โช้คอัพ แตกหรือรั่วซึมได้
- ใช้งานนานเกินไป กรณีนี้ คือการใช้งาน โช๊คอัพ เกินอายุการใช้งาน จนโช๊คอัพ เกิดอาการเสื่อมสภาพ ไปตามอายุนั่นเอง ซึ่งการฝืนใช้ โช้คอัพเสื่อมสภาพ อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไม่คาดฝันได้
- ไม่ดูแลความสะอาด โดยเฉพาะ หากต้องขับขี่ ผ่านถนนที่เป็นลูกรัง ทำให้มีฝุ่นและเศษดิน กระเด็นเข้ามาเกาะ แกนโช๊คอัพ และหลุดเข้าไปภายใน ส่งผลต่อประสิทธิภาพ ในการทำงาน ของโช๊คอัพได้
- การติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน หากช่างไม่ชำนาญ หรือมีประสบการณ์ไม่มากพอ ก็อาจจะทำให้โช๊คอัพรั่วซึม หรือเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติได้
โช๊ครั่วแค่ข้างเดียว ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งสองข้างหรือไม่?
หลายคนอาจจะมีคำถาม หากเกิดกรณีโช๊ครั่ว หรือชำรุด เพียงแค่ข้างเดียว จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ ทั้งสองข้างหรือไม่ คำตอบคือ ควรจะเปลี่ยน โช๊คอัพใหม่ทั้งคู่ เพื่อรักษาความสมดุล ของตัวถังรถ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เพราะหากเปลี่ยน แค่ข้างเดียว ความสมดุล ของช่วงล่าง ก็จะไม่เท่ากัน เนื่องจากความแข็งแรง ของโช๊คอัพ อันใหม่และเก่า ไม่เท่ากันนั่นเอง
วิธียืดอายุการใช้งานโช๊คอัพ
- หลีกเลี่ยงการขับขี่ บนผิวถนนที่มีความขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรค่อย ๆ ขับขี่ ด้วยความเร็วต่ำ เพื่อลดทอน แรงกระแทกให้เบาลง
- ไม่บรรทุกของหนักบ่อย ๆ หรือไม่เก็บของ ที่ไม่จำเป็น ไว้บนรถตลอด เพราะจะทำให้ ประสิทธิภาพ ในการทำงาน ของโช๊คอัพลดลง และยังทำให้เปลืองน้ำมันอีกด้วย
- ไม่ขับรถเร็วมากเกินไป เพราะจะทำให้ ช่วงล่างของรถยนต์ เกิดการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- หมั่นตรวจเช็ก ช่วงล่างของรถยนต์ รวมไปถึงลมยาง หากพบว่าเกิดความผิดปกติ ให้รีบนำรถ ไปให้ช่างตรวจสอบ เพื่อทำการแก้ไข
ยินดีให้บริการ
