มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี
ราคาเริ่มต้น 1,640,000 บาท
Mitsubishi Outlander PHEV
มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี
รุ่นรถและราคาจำหน่าย
2.4 GT – PHEV (S-AWC) | 1,640,000 บาท |
2.4 GT-Premium – PHEV (S-AWC) | 1,749,000 บาท |
จุดเด่น
การออกแบบ
เทคโนโลยี
Gallery
ไฮไลท์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ใหม่
ตำนานแห่งยนตรกรรมครั้งใหม่พาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ที่เหนือกว่าก้าวข้ามสู่…อีกขั้นของ PHEV
S-AWC ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อระดับตำนาน
ที่สุดของการควบคุม กับ S-AWC (Super All Wheel Control) เทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อระดับตำนานจากมิตซูบิชิ ที่จะควบคุมการขับเคลื่อนอัจฉริยะ ช่วยรักษาสมดุลอย่างอิสระทั้ง 4 ล้อ พร้อมโหมดให้เลือกใช้งานตามสภาพเส้นทางที่เหมาะสม
ชาร์จไฟสะดวก
เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รองรับการชาร์จไฟฟ้าให้คุณหายห่วงทุกการเดินทาง ด้วยขั้นตอนการชาร์จที่ไม่ยุ่งยากอีกทั้งยังสะดวกต่อการใช้งานสำหรับคุณ
กำลังสูงสุด 305 แรงม้า*
เร้าใจด้วยกำลังสูงสุด 305 แรงม้า ผสานการทำงานระหว่าง มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (Twin Motors) และเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร*คำนวณแรงม้าจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า
มั่นใจไปได้ไกลกว่า ด้วยการผสาน 2 พลังงานทั้งน้ำมันและไฟฟ้า
เมื่อชาร์จไฟรถยนต์จนเต็มสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้า 100% ได้ไกลถึง 55 กม. และเมื่อผสาน 2 พลังงานจากไฟฟ้าและน้ำมัน รถจะสามารถทำงานร่วมกันให้ระยะทางวิ่งรวมได้ไกลยิ่งขึ้น ประหยัดและให้ความมั่นใจตลอดการขับขี่
ดีไซน์หรูหรา โดดเด่นสะท้อนความเป็นคุณ
Advanced Dynamic Shield Design คอนเซ็ปต์การออกแบบด้านหน้ารถอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ ให้วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลกว่า เพื่อแนวคิดด้านความปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้ใช้ถนน และยังคงไว้ซึ่งดีไซน์แห่งอนาคต ให้ความเร้าใจในทุกมุมมอง
ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย
ด้วยการออกแบบคอนโซลหน้าและคอนโซลกลาง ทำให้พื้นที่ด้านฝั่งคนขับและห้องโดยสารกว้างขวางมากกว่าที่เคย พร้อมเบาะที่โอบแนบตัวนั่งสบาย และดีไซน์ Diamond Quilting Design ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายโดดเด่นยิ่งขึ้น
ระบบล็อกความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ
ระบบจะล็อกความเร็วให้คงที่ตามที่ผู้ขับขี่ได้ตั้งค่าไว้ โดยทำงานร่วมกับเรดาร์ หากตรวจพบว่ามีรถยนต์ด้านหน้าใช้ความเร็วต่ำกว่า ระบบจะปรับลดความเร็วอัตโนมัติ เพื่อรักษาระยะห่างจากรถยนต์ด้านหน้า และจะปรับความเร็วกลับสู่ระดับเดิมที่ตั้งค่าไว้ เมื่อรถยนต์คันหน้าพ้นจากระยะตรวจจับของเรดาร์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย และความปลอดภัยในการขับขี่ตลอดการเดินทาง
ดีไซน์หรูหรา โดดเด่นสะท้อนความเป็นคุณ
รูปลักษณ์ที่สวยงาม สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น สัมผัสสุนทรียภาพในการเดินทาง ไปกับพื้นที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่ มาพร้อมกับเบาะที่นั่งที่ออกแบบอย่างประณีตทุกรายละเอียด หรูหรา นั่งสบายทุกการเดินทาง
ไฟหน้า LED ส่องสว่างขณะขับขี่ช่วยให้ทัศนวิสัยชัดเจนยิ่งขึ้น
ไฟหน้าเป็นระบบส่องสว่างด้วยหลอด LED โดยระบบสามารถปรับระดับสูง – ต่ำให้เองอัตโนมัติ เพื่อป้องกันปัญหาแสงไฟไปรบกวนสายตาผู้ขับรถคันอื่น อีกทั้งยังมีไฟตัดหมอก LED สีขาว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็น เพื่อทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนด้วยไฟ LED Daytime Running Lights ที่ส่องสว่างอัตโนมัติเมื่อรถวิ่งในเวลากลางวัน ช่วยให้ผู้ขับรถคันอื่น คนเดินถนน และผู้ใช้จักรยานสามารถมองเห็นได้ชัดเจน
*ไฟหน้า LED เฉพาะรุ่น GT-Premium
จัดเก็บสัมภาระท้ายรถได้สะดวกง่ายดาย
ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบป้องกันการหนีบ ให้คุณสะดวกสบายกว่าที่เคย
*เฉพาะรุ่น GT-Premium
เบาะนั่งสบายรองรับสรีระ
ด้วยการออกแบบคอนโซลหน้าและคอนโซลกลาง ทำให้พื้นที่ด้านฝั่งคนขับและห้องโดยสารกว้างขวางมากกว่าที่เคย พร้อมเบาะที่โอบแนบตัวนั่งสบาย และดีไซน์ Diamond Quilting* ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบายโดดเด่นยิ่งขึ้น
*เฉพาะรุ่น GT-Premium
ปุ่มปรับโหมด EV
ปรับเปลี่ยนโหมดเพื่อขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว เงียบ และประหยัดพลังงาน
Joystick
สำหรับควบคุมการขับเคลื่อนรถยนต์ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการ
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับแยกอุณหภูมิอิสระ ซ้าย-ขวา
ปรับอุณหภูมิ ควบคุมได้อย่างอิสระ
ดีไซน์ครบทุกฟังก์ชั่น เพื่อการขับขี่
หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ตโฟน พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth Hand Free รองรับระบบสั่งการด้วยเสียง
รองรับการใช้งาน Apple CarPlay*
เชื่อมทุกความบันเทิงไร้ขีดจำกัดกับ Apple CarPlay
*เงื่อนไขการใช้งาน Apple CarPlay เป็นไปตามเงื่อนไขที่ Apple Inc. กำหนด •Apple CarPlay และ iPhone เป็นเครื่องหมายการค้าของ Apple Inc.
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.apple.com/ios/carplay/
เทคโนโลยี พีเอชอีวี
ผสานทุกความเป็นที่สุดของมิตซูบิชิ เพื่อเปิดตำนานบทใหม่ให้โลกแห่งยนตรกรรม New Mitsubishi Outlander PHEV รถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริดที่ทรงพลัง และมีเทคโนโลยีการควบคุมการขับขี่ระดับตำนาน พร้อมพาคุณทะยาน ไปสู่ทุกเป้าหมายได้อย่างทรงพลัง ก้าวข้ามสู่อีกขั้นของ PHEV ไปกับยนตรกรรมที่พร้อมเป็นคำตอบที่ใช่ในทุกเส้นทาง
เทคโนโลยีแห่งอนาคต… ที่พร้อมแล้วสำหรับคุณวันนี้
พลังขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้คุณขับขี่อย่างเงียบสนิทและประหยัดกว่า ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยระบบสลับการทำงานแบบไร้รอยต่อ เพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด
นวัตกรรมแห่งสมรรถนะเหนือชั้น
พลิกโฉมระบบปลั๊กอินไฮบริด ครั้งใหญ่ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยให้เครื่องยนต์ประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้นไปพร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการใช้พลังงาน ผลที่ได้คือประสบการณ์ในการขับขี่ที่เหนือชั้น เร่งพลังได้ดั่งใจ ไร้เสียงรบกวน นุ่ม เงียบ แรง ทรงพลังในทุกจังหวะการขับขี่
01
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และ S-AWC
มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ติดตั้งแยกด้านหน้าและด้านหลัง สามารถผนึกกำลังตอบสนองการขับเคลื่อน 4 ล้อได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมเสริมด้วยระบบ Super All Wheel Control (S-AWC) ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทรงตัวให้คุณบังคับควบคุมทิศทางของรถได้อย่างแม่นยำ
02
ขุมพลังใหม่ เครื่องยนต์ MIVEC แบบ DOHC 2.4 ลิตร
เครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร ช่วยผลิตไฟฟ้าและสร้างพลังขับเคลื่อนได้อย่างเต็มสมรรถนะ
03
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า
เครื่องกำเนิดไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยเปลี่ยนกำลังของเครื่องยนต์เป็นไฟฟ้าไปจัดเก็บไว้ในแบตเตอรี่ พร้อมส่งกำลังขับเคลื่อนให้มอเตอร์ทุกครั้งเมื่อมีการเร่งเครื่อง
04
ชุดควบคุมมอเตอร์ด้านหน้า (Front MCU) และชุดควบคุมมอเตอร์ด้านหลัง (Rear MCU)
เพิ่มพลังแรงบิดให้เต็มประสิทธิภาพ ด้วยชุดควบคุมมอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าด้านหน้าและด้านหลัง
05
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดใหญ่ 13.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง จัดวางในตำแหน่งใต้ตัวถังรถเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายใน
EV DRIVE MODE
โหมดการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 100% สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 135 กม./ชม. เงียบและให้พลังงานสะอาด ปราศจากการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซ CO2
SERIES HYBRID MODE
โหมดการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์เมื่อแบตเตอรี่ขับเคลื่อนอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเร่งความเร็วโดยฉับพลัน หรือเมื่อเร่งเครื่องขึ้นทางลาดชัน
PARALLEL HYBRID MODE
โหมดการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ โดยใช้กำลังเสริมจากมอเตอร์ไฟฟ้า จะทำงานเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง หรือต้องการเร่งแซง
การชาร์จแบตเตอรี่
รถไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ใช้ทั้งระบบเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าที่อาศัยพลังงานจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน การชาร์จไฟแบตเตอรี่ทำได้สะดวกและง่ายดายเพียงเสียบสายชาร์จเข้ากับปลั๊กไฟที่บ้าน ด้วยชุดอุปกรณ์โดยเฉพาะ หรือขับไปชาร์จที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้บริการนอกสถานที่ได้เช่นกัน
การชาร์จรูปแบบปกติ
ให้กำลังไฟ 100% ในเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
การชาร์จไฟแบบเร็ว
ให้กำลังไฟ 80% ในเวลาประมาณ 25 นาทีด้วยหัวชาร์จ CHAdeMO