Chat with us!
Instagram

Mitsu RMA

Mitsubishi Xforce HEV จ่อเปิดตัวในไทย มีนาคม 2025

Mitsubishi xForce HEV จ่อเปิดตัวในไทย มีนาคม 2025

Mitsubishi XForce HEV จ่อเปิดตัวในไทย มีนาคม 2025

Mitsubishi XForce HEV (1.6 Hybrid) เป็นรถครอสโอเวอร์ขนาดกะทัดรัดที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ล่าสุด โดยมีกำหนดเปิดตัวในประเทศไทยในเดือนมีนาคม 2025 ซึ่งคาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 700,000 บาท

รถรุ่นนี้จะเป็น B-SUV ที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดขนาด 1.6 ลิตร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและลดการปล่อยคาร์บอน พร้อมกับเน้นความคุ้มค่าและประหยัดน้ำมัน โดยเปิดตัวครั้งแรกในอินโดนีเซียเมื่อเดือนสิงหาคม 2023 ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร แต่สำหรับตลาดไทยจะมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 Full Hybrid ซึ่งเหมือนกับรุ่น Xpander HEV ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้

Mitsubishi XForce HEV จะมุ่งสู่การแข่งขันในตลาด B-SUV ซึ่งหวังว่าจะสามารถท้าชิงความนิยมในตลาดนี้ด้วยความคุ้มค่าและสมรรถนะที่ดีเยี่ยม

การผลิต Mitsubishi XForce HEV จะดำเนินการที่โรงงานในแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เช่นเดียวกับรุ่น Xpander HEV เพื่อสนับสนุนการผลิตภายในประเทศ

มิติตัวถัง

  • ยาว 4,390 มิลลิเมตร
  • กว้าง 1,810 มิลลิเมตร
  • สูง 1,660 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ Wheelbase 2,650 มิลลิเมตร
  • ระยะต่ำสุดถึงพื้น 22.2 ซม.

เครื่องยนต์

HEV e:Motion 1.6 Hybrid ติดตั้งเครื่องยนต์ตัวเดียวกับ Xpander HEV

เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ MIVEC พละกำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 5,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 134 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 116 แรงม้า 255 นิวตันเมตร Full Hybrid แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 1.1 kWh จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Transaxale ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20

การออกแบบภายนอก

  • โหมดการขับขี่ Drive Mode : Normal / Wet / Gravel / Mud
  • ช่วงล่างด้านหน้า McPherson Strut
  • ช่วงล่างด้านหลัง Torsion Beam
  • รัศมีวงเลี้ยวอยู่ที่ 5.2 เมตร
  • ระบบเบรก ด้านหน้า มีช่องระบายความร้อน / ด้านหลัง ดิสก์เบรก
  • ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว
  • ยาง ขนาด 225/50 R18
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อม Auto Brake Hold
  • ไฟหน้า – ไฟท้าย LED
  • ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้า แบบอัตโนมัติ
  • ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า
  • ระบบเปิด-ปิด ฝาท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ Kicks Sensor

การออกแบบภายใน

  • ภายในห้องโดยสาร สีดำ Black / สีน้ำตาล Mocha
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร White Melange Fabric
  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง แบบลดความร้อน Anti-Temperature Rise
  • เบาะนั่งด้านหลัง แยกอิสระ 60 : 40
  • เบาะนั่งด้านหลัง ปรับเอนได้ 8 ระดับ
  • มาตรวัด Full Digital ขนาด 8 นิ้ว
  • หน้าจอกลาง Touchscreen ขนาด 12.3 นิ้ว
  • รองรับ Apple CarPlay / Android Auto แบบไร้สาย Wireless
  • ระบบเสียงรอบทิศทาง YAMAHA Premium Sound
  • ลำโพง 8 ตำแหน่ง
  • ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย Wireless Charger
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
  • ระบบปรับสมดุลอากาศ Nanoe X
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • กล่องเก็บของสามารถแช่เครื่องดื่มเย็น Cool Box
  • ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Light

ระบบความปลอดภัย

  • ระบบเบรก ABS / EBD / BA
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ASC
  • ระบบ Active Yaw Control
  • ระบบช่วยเหลือการขับขี่ DIAMOND SENSE
  • ระบบเตือนมุมอับสายตา BSW
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า FCM
  • ระบบไฟสูงอัตโนมัติ AHB
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
  • ระบบเตือนเมื่อรถด้านหน้าเคลื่อนที่ LCDN
  • กล้องมองภาพขณะถอยจอด
  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
  • ระบบเตือนแรงดันลมยาง TPMS

การเปิดตัวของ Mitsubishi XForce HEV (1.6 Hybrid) ในประเทศไทยในปี 2025 จะเป็นการเสริมสร้างตลาดรถยนต์ไฮบริดและไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม B-SUV ที่กำลังได้รับความนิยมสูง ซึ่งการมาของ XForce HEV น่าจะช่วยเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้บริโภคที่ต้องการรถยนต์ที่มีความประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งยังคงให้ความคุ้มค่าในด้านราคา และประสิทธิภาพการขับขี่ ผู้บริโภคในประเทศไทยจะตอบรับรถรุ่นนี้อย่างไรในตลาดที่มีการแข่งขันสูงในอนาคต.


ขอบคุณข้อมูล : https://www.mitsubishi-motors.co.id/our-cars/xforce , https://autolifethailand.tv/ ,

ป้ายกำกับ

0
    ตะกร้าสินค้า
    ตะกร้าสินค้าว่างเปล่ากลับสู่ร้านค้า