รีวิว Mitsubishi Xpander HEV
การใช้งาน รถครอบครัว 7 ที่นั่ง ยกระดับรถรอบครัวไปอีกขั้น มาพร้อมขุมพลังไฮบริด ที่พัฒนาเทคโนโลยี มากจาก Plug-in Hybrid ผสานการทํางาน เครื่องยนร์ และ มอเตอร์ไฟฟ้า อย่างลงตัว พร้อมให้สัมผัส รบบการทํางาน ของ 3 เทคโนโลยี ไฮบริด , 7 Drive Mode , AYC ในส่วนของแรงบิดสูงสุด อยู่ที่ 255 นิวตัน – เมตร ภายในห้องโดยสาร พร้อมให้คูณได้ ได้เต็มกับ ห้องโดยสารรดับ พรีเมี่ยม นั้งสบายพร้อมกับคนทุกเพศ ทุกวัย ทัศนวิสัยทีดีเยี้ยมแก่ผู้ขับขี่
จุดแตกต่างภายนอก HEV กับน้ำมัน มีอะไรบ้าง
- Xpander รุ่นน้ำมัน จะเป็นดิสก์เบรก แค่ 2 ล้อ
- โลโก้ HEV ลายสติกเกอร์ที่ล้อแม็กซ์ พร้อมดิสก์เบรก 4 ล้อ
- ลวดลายด้านข้าง และด้านหลังเป็น HEV
- ส่วนตอนท้าย สามารถพับเบาะได้ราบเรียบ เก็บของได้กว้างขวาง
- HEV พวงมาลัยจะกระชับ สปอร์ต เรียบหรู แผงหน้าปัดเปลี่ยนใหม่ ปรับได้ 7 Drive mode
- คันเกียร์ไฟฟ้า สามารถปรับเกียร์ได้ง่าย สวย และดูดี
- ห้องโดสารกว้าง นั่งได้ 7 ที่นั่ง สามารถปรับเบาะแถว 2 เป็นรางเลื่อนได้
- คนส่วนสูง 180 ซม. นั่งได้ไม่ติดเฮดรูฟ
มิติตัวถัง
- ยาว 4,595 มิลลิเมตร
- กว้าง 1,750 มิลลิเมตร
- สูง 1,750 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ Wheelbase 2,775 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance 195 มิลลิเมตร
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น Ground Clearance 205 มิลลิเมตร (Xpander Cross HEV)
เครื่องยนต์
สเปคเครื่อง 1600 ซีซี เครื่องยนต์ไฮบริด กำลังสูงสุด 116 แรงม้า และแรงบิดสูงถึง 255 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งดี นุ่มนวล ขับขี่สบายได้มากกว่าเดิม มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินใหม่ DOHC MIVEC 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้าที่ 5,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 134 นิวตัน-เมตรที่ 4,500 รอบ/นาที พร้อมระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC (Mitsubishi Innovative Value Timing Electronic Control System)
ขับเคลื่อนเต็มกำลังด้วยขุมพลังไฮบริด เต็มรูปแบบ มอเตอร์สผสานการทำงานของเครื่องยนต์ 1.6L MIVEC และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง ปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ตั้งแต่การออกตัว การขับขี่ความเร็วตํ่า และความเร็วสูง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในทุกจังหวะของการเดินทาง พร้อมทั้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น
หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ พร้อมแสดงผลการจ่ายไฟและชาร์จไฟระบบไฮบริด
ชัดเจนด้วยจอแสดงผลแบบ LCD ขนาดกว้าง 8 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ หลังพวงมาลัย ปรับเปลี่ยนได้ 2 รูปแบบ ล้ำสมัย ให้คุณไม่พลาดทุกข้อมูลการขับขี่
เกียร์ไฟฟ้า
สะดวกสบายด้วย ELECTRIC SHIFT ควบคุมการขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ไฟฟ้า 100% ตอบสนองการสั่งการอย่างรวดเร็วและนุ่มนวล
ระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ BRAKE AUTO HOLD
สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเหยียบเบรกค้างเมื่อเจอสภาพการจราจรที่ติดขัด
ระบบอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยอัจฉริยะ (ETACS)
ระบบไฟนำทางหลังดับเครื่องยนต์
เมื่อดึงก้านไฟเลี้ยวข้าหาตัวภายใน 60 วินาทีหลังดับเครื่องยนต์ ไฟหน้าจะอยู่ในตำแหน่งไฟต่ำ และทำงานเป็นเวลา 30 วินาที
ระบบไฟสว่างอัตโนมัติเมื่อปลดล็อก
เมื่อกดปุ่มปลดล็อกบนกุญแจรีโมท ไฟหรี่และไฟท้ายจะสว่างอัตโนมัติ และทำงานเป็นเวลา 30 วินาที (ระบบจะทำงานเมื่อสวิตช์ ชุดไฟหน้าอยู่ในตำแหน่ง OFF)
ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ
ระบบจะทํางานเมื่อเบรกกะทันหัน เพื่อแจ้งเตือนรถที่อยู่ด้านหลัง
การขับขี่ทั้ง 7 โหมด Xpander Cross HEV
โหมด GRAVEL (ถนนขรุขระ)
ไม่ว่าจะเป็นส่วนของพวงมาลัย หรือการตอบสนองคันเร่ง ปรับให้ระบบการทำงานของ Traction control ให้สมดุลกัน
การทำงานของ Active Yaw Contol / Acc eleration gain / Streering effort ให้สมดุลเป็นปกติ
โหลด WET (ถนนเปียก)
สภาพเส้นทางที่ฝนตกถนนลื่น ปรับให้การทำงานของ Traction control ตอบสนองเร็วขึ้น ตอบสนองคันเร่ง Active Yaw Control ปรับให้ลดลงจากหมวดปกติ เพื่อให้ควบคุมให้ง่ายขึ้น ล้อเกิดอาการหมุนฟรีน้อยลง ในส่วนของน้ำหนักพวงมาลัยจะปรับให้หนักมากขึ้น เพื่อให้ควบคุมง่าย
โหลด MUD (ถนนโคลน)
พื้นที่ทางดิน เมื่อเกิดฝนตก หรือ หลังฝนตก จะมีความลื่นมากกว่าถนนปกติ โหมดนี้จะปรับการทำงานในส่วนของ Traction control ให้ต่ำที่สุด และระบบส่วนตอบสนองของคันเร่งน้อยลงเมื่อวิ่งผ่านทางดิน ส่วน Active Yaw Contol จะไม่ทำงาน เพื่อให้รถมีกำลัง เครื่องยนต์มอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังไปที่ล้อได้มากขึ้น พวงมาลัยยังปรับอยู่ในเกณฑ์ที่เป็น Nomal ให้สามารถควบคุมได้
โหมด GRAVEL (ถนนขรุขระ)
สภาพเส้นทางลูกรัง ทางกรวด ปรับในส่วน Traction control ลดลง เพื่อให้ล้อสามารถหมุนฟรีได้บ้าง Active Yaw Contol ปรับให้เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองให้ไวมากขึ้น ระบบ Acceleration gain ลดลง เพื่อให้พวงมาลัยมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้น ขับขี่ได้ง่ายขึ้น
โหมด TARMAC (ถนนลาดยาง)
สภาพเส้นทางขึ้นเขา ลงเขา ทางลาดยาง Traction control ปรับเป็นปกติ Active Yaw Contol ปรับสูงสุด เข้าโค้งได้มั่นใจมากขึ้น ตอบสนองคันเร่งรวดเร็ว ขึ้นเขาอาจต้องใช้กำลังเยอะ พวงมาลัยปรับให้หนักขึ้น ขึ้นเขาลงเขาเข้าโค้งจะดีมากกว่าเดิม
โหมด Charge
เป็นโหมดที่ต้องการให้แบตเตอรี่มีประจุกระแสไฟ เก็บเข้าแบตเตอรี่ให้มากที่สุด สามารถสั่งในโหมดชาร์จเพื่อเก็บแบตเตอรี่ เมื่อจอดรถรอ ไม่อยากให้เครื่องยนต์ใช้ทำงาน แต่ยังสามารถเปิดแอร์
โหมด EV Priority
เครื่องยนต์จะไม่ติด ตราบใดที่ยังมีแบตเตอรี่อยู่ สามารถใช้งานในโหมดชาร์จ เพื่อให้กระแสไฟเก็บเข้าแบตเตอรี่จนระดับ 5 ขีด สามารถสวิตซ์โหมด EV วิ่งไฟฟ้าล้วนได้เลย
ราคาจำหน่าย
- Xpander HEV ราคา 933,000 บาท
- Xpander Cross HEV ราคา 961,000 บาท
ความต่างระหว่าง Mitsubishi Xpander HEV และ Mitsubishi Xpander Cross HEV
ความแตกต่างระหว่างทั้งสองรุ่นหลักๆ ที่มองเห็นได้มีดังต่อไปนี้
1. กระจังหน้า ( Cross Design Front Grille )
- มีความแต่งต่างกันอย่างชัดเจน ในด้านรูปลักษณ์ Xpander Cross HEV ช่องรับลมจะกว้างกว่า
2. กันชน – หน้าหลัง ( Front & Rear Bumper )
- Xpander HEV จะมี 1 ช่องลมขนาดยาว แต่ Xpander Cross HEV จะมีถึง 3 ช่องลมในส่วนด้านหลัง
3. แผงตกแต่งข้างประตู และ ซุ้มล้อราวหลังคา ( Door Garnish and Wheel Arch Moiding )
Xpander Cross HEV
- แผงข้างประตู มีหน้าที่ไว้ กันชน ตัวด้านข้างประตู เพื่อป้องกัน สิ่งของกระทบกับตัวรถโดยตรง
- ซุ้มหลังคา ประโยชน์เพื่อ นําไว้ขนสัมภาระที่มีขนาดใหญ่กว่าจะไว้ด้านในตัวรถได้
4. ยกสูงกว่ารุ่นปกติ ( Raised higher than the normal model )
- ในส่วนของรุ่น CROSS จะยกสูงกว่า เพื่อเพิ่มการยืดหยุ่นให้กับตัวรถมากขึ้น พร้อมสําหรับการเดินทางในสถานที่ มีหลุม หรือ เขตก่อสร้าง ไม่ให้กระทบต่อช่วงล่างของรถยนต์
ทดลองขับจริง
อัตราการเร่ง รอบ 255 นิวตันเมตร พร้อมมากับระบบห้ามล้อ 4 ดิสก์เบรก ช่วงล่างซับเสียงได้ดี แน่น ดีกว่าเครื่องยนต์สันดาปพอสมควร ด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมา 160 – 170 กม. ต้องอัปเดตช่วงล่างขึ้นมาอีกหน่อย
ระบบช่วยการขับขี่ cruise control
อัตราสิ้นเปลือง จะอยู่ที่ประมาณ 19.2 กม./ลิตร ถ้าเป็นเครื่องยนต์สันดาปจะอยู่ประมาณ 14 กม./ลิตร
ความรู้สึกในการขับขี่ของผู้ใช้งานจริง
- รถมีการยกสูงอยู่ที่ประมาณ 205 มม. ในความเร็วต่ำ และ ความเร็วคงที่จะวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน แต่ถ้ามีอัตราเร่งเยอะ เครื่องยนต์จะทํา 2 หน้าที่ คือ ส่งพละกําลังลงล้อ และ ทําหน้าที่ปั่นไฟไปด้วย บางฟังก์ชั่น บางจังหวะจะวิ่งไฟฟ้า สลับกับ วิ่งแบบน้ำมัน ช่วยให้ประสานกันได้ดียิ่งขึ้น การออกตัวทําได้ดีที่สุดในคลาสเดียวกัน ทุกการเบรค แบตเตอรี่จะทําการรีโคฟเวอรี่ใหม่ทันที รูปแบบเครื่องยนต์ทําออกมาได้ดีมาก ในรูปแบบการทํางานก็ดีเช่นเดียวกัน ช่วงล่างอยู่ในระดับพอใช้ได้ ไม่นุ่ม และไม่แข็ง การเก็บเสียงภายในตัวรถจะยังทําได้ไม่ได้ดีมาก
- เบาะในส่วนตอน 2 และ 3 สามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย รูปแบบถือว่าตอบโจทย์คนที่เดินทางไกล และ ครอบครัวใหญ่
การรับประกันระบบไฮบริดและแบตเตอรี่
ยินดีให้บริการ
