รถสตาร์ทไม่ติด! เพราะอะไร แก้ยังไง
รถยนต์สตาร์ทติดยากหรือรถสตาร์ทไม่ติดบางครั้งรถยนต์อาจมีปัญหาในการสตาร์ท และนี่คือปัญหาทั่วไปที่หลายๆ คนเคยประสบมา สาเหตุคืออะไรมักเกิดขึ้นจากอะไรได้บ้างมาดูกัน
10 ตัวการสำคัญที่อาจทำให้คุณสตาร์ทรถไม่ติด แต่เราได้แนะวิธีแก้เบื้องต้นให้คุณแก้ไขด้วยตนเองอย่างง่าย หรือให้คุณพอเข้าใจสังเขปก่อนเมื่อนำรถไปซ่อม
1. แบตเตอรี่
คือ ปัญหาหนึ่งของรถยนต์คือบางครั้งสตาร์ทติดยาก กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้หากแบตเตอรี่เก่าหรือหากรถจอดอยู่กับที่เป็นเวลานาน
- อายุ โดยปกติแบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับว่าแบตเตอรี่ผลิตมาวัสดุหรือคุณภาพดีแค่ไหนและใช้งานไปมากน้อยเพียงใด
- แนวทางแก้ไข โดยการนำไปชาร์จไฟแบตและเติมน้ำกลั่นซึ่งอาจใช้ไปได้อีกสักระยะหนึ่ง (1-3เดือน) หรือ เปลี่ยนลูกใหม่
- ขั้ว หากแบตเตอรี่ในรถยนต์มีสิ่งสกปรก หลวม หรือมีการเชื่อมต่อด้านข้างที่แข็งขึ้น ก็อาจทำให้รถสตาร์ทได้ยาก
แนวทางการแก้ไข คือ ขันขั้วแบตเตอรี่ทั้ง 2 ขั้วให้แน่นหรือใช้กระดาษทรายขัดหน้าสัมผัสขั้วตะกั่วของแบตเตอรี่ทั้ง 2 ขั้วให้อยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมใช้งาน
2. มอเตอร์สตาร์ทหรือไดสตาร์ตเสีย
คือ รถยนต์อาจมีปัญหาในการสตาร์ทเนื่องจากชิ้นส่วนที่ทำให้เกิดประกายไฟอาจเสื่อมสภาพและเสียหายได้ในที่นี้หมายถึงเกิดจากเสื่อมขั้วละลายและแปลงถ่านไหม้นั่นเอง
- แปลงถ่าน มอเตอร์สตาร์ทอาจจะเก่าและใช้งานไม่ได้ เราอาจเห็นสัญญาณนี้แม้ว่าจะใส่แบตเตอรี่ใหม่หรือตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่มีน้ำอยู่เต็มแล้ว รถอาจมีปัญหาในการสตาร์ทหรือสตาร์ทไม่ได้เลย
- แนวทางการแก้ไข นำรถยนต์เข้าศูนย์บริการหรือช่างซ่อมไดร์มอเตอร์เปลี่ยนแปลงถ่านหรือเปลี่ยนมอเตอร์สตาร์ทลูกใหม่
3. ระบบไฟฟ้าฟิวส์หรือรีเลย์สตาร์ทเตอร์
คือ อีกหนึ่งสาเหตุของอาการรถสตาร์ทติดยาก
- หน้าสัมผัส บางครั้งส่วนที่ต่อรีเลย์หรือฟิวส์อาจสกปรกหรือมดอาจคลานเข้าไปข้างในและทำให้เกิดปัญหาได้ สิ่งนี้เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย
- แนวทางการแก้ไข เราต้องทำความสะอาดส่วนหน้าสัมผัส แล้วใส่น้ำสะอาด ดูว่าทำงานได้ดีขึ้นหรือไม่ หากยังใช้งานไม่ได้เราสามารถลองเปลี่ยนชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฟิวส์หรือรีเลย์สตาร์ทเพื่อแก้ไขปัญหารถสตาร์ทไม่ติดง่าย
4.ไดร์ชาร์จไฟเสีย
เป็นอีกต้นเหตุอาการสตาร์ทติดยากว่าอาจเป็นเพราะ
- การเสื่อมของไดร์ชาร์จเมื่อแบตเตอรี่ชาร์จไม่เต็มก็จะมีพลังงานไม่เพียงพอที่จะสตาร์ทเครื่องยนต์ทำให้สตาร์ทรถได้ยาก
- แนวทางการแก้ไข คือนำรถเข้าศูนย์บริการหรือเข้าอู่ซ่อมไดร์ชาร์จมอเตอร์เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงถ่านหรือชิ้นส่วนภายในของไดร์ชาร์จหรือเปลี่ยนไดร์ชาร์จลูกใหม่
5.ปั๊มติ๊กไฟฟ้า
คือหนึ่งในตัวปัญหาที่รถสตาร์ทติดยาก บางครั้งหากมอเตอร์ในปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงหรือตัวกรองเก่าหรืออุดตัน อาจทำให้รถสตาร์ทได้ยาก
- แนวทางการแก้ไข เปลี่ยนปั๊มติ๊กไฟฟ้าลูกใหม่
6. น้ำมันรั่วในระบบ
คือ ปัญหาหนึ่งของรถคือสตาร์ทติดยากเนื่องจากมีน้ำมันรั่วในส่วนต่างๆ ของระบบ ช่างยนต์จะต้องค้นหาว่ารอยรั่วมาจากไหน เช่น ในท่อน้ำมันเชื้อเพลิงและท่อ พวกเขาอาจจำเป็นต้องตรวจสอบท่อน้ำมันเชื้อเพลิงก่อนที่จะเข้าไปในตัวกรองหรือปั๊มฉีด รวมทั้งขันข้อต่อที่หลวมในท่อน้ำมันเชื้อเพลิงให้แน่น
7. ระบบหัวเผา
คือบางครั้งรถที่ใช้หัวเทียนอาจสตาร์ทติดยาก โดยเฉพาะในตอนเช้า อาจเป็นเพราะวงจรหัวเทียนเสีย
- แนวทางการแก้ไข คือควรนำรถเข้าเช็คศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมไดชาร์จมอเตอร์หรืออู่ซ่อมรถยนต์ที่มีประสบการณ์
8. กรองน้ำมันเชื้อเพลิงตันสกปรก
หากเราสังดกตจะพบว่าเหตุการณ์นี้สามารถพบได้บ่อยครั้ง บางครั้งรถอาจมีปัญหาในการสตาร์ทหรือเร่งเครื่องไม่ขึ้น ช่างต้องตรวจจุดนี้เมื่อรถมีอาการสตาร์ทติดยากเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างถูกต้อง
9. กลไกอื่น ๆ ของเครื่องยนต์
- วาล์วไฮดรอลิกสกปรก รถยนต์บางคันมีปัญหาเกี่ยวกับวาล์วไฮดรอลิก ซึ่งทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดยาก หรือสั่นและสะดุด
- แนวทางการแก้ไข คือถอดวาล์วออกมาล้างหรือเปลี่ยนวาล์วใหม่
- บ่าวาล์วสึกหรอ บางครั้งรถสตาร์ทติดยากเนื่องจากมีอากาศรั่วหรือแรงอัดภายในออกจากกระบอกสูบ สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อวาล์วในรถเก่าหรือหลวม มันสามารถเกิดขึ้นได้ในรถยนต์ที่มีการใช้งานเป็นเวลานาน หรือรถแก๊สที่ใช้งานมานานก็มักพบปัญหานี้
- หัวฉีดตันหรืออุปกรณ์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์เสื่อม ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยมาก ทางที่ดีควรนำรถของคุณไปเข้ารับบริการจรวจสภาพเพื่อตรวจสอบด้วยสิ่งที่เรียกว่า OBD 2
10. น้ำมันหมด
น้ำมันหมดก็เป็นอีกปัญาหนึ่งรถสตาร์ทไม่ติดที่พบได้บ่อย ปัญหาคือเมื่อมีเชื้อเพลิงเหลืออยู่ในถังไม่มากนัก หรือบางครั้งจอดรถบนทางลาด ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงอาจจะไม่สามารถจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ตามที่ต้องการ ซึ่งจะทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ ดังนั้นควรเติมน้ำมันให้เต็มถังไว้ตลอดจะดีกว่า
ปัญหารถสตาร์ตไม่ติดสามารถเลี่ยงได้ด้วยมีสติและเตรียมพร้อมเสมอ สิ่งสำคัญที่ละเลยไม่ได้คือการดูแลรถของคุณและดูแลรถเป็นประจำ
ขอบคุณข้อมูล : www.valvolineglobal.com