ประเภทน้ำมันรถ แบบไหนเหมาะกับรถเรามากที่สุด
ปั๊มน้ำมันมีตัวเลือกประเภทน้ำมันรถมากมายคอยให้บริการแก่ผู้ขับขี่ อย่างไรก็ตาม คำถามต่างๆ หากจะเลือกใช้น้ำมันเชื้อเพลิงนั้น น้ำมันรถชนิดไหนที่ดีที่สุดสำหรับรถของเรา ในข้อสงสัยนี้ เราอาจสงสัยว่าองค์ประกอบของเชื้อเพลิงแต่ละประเภทมีความสอดคล้องกับข้อกำหนดเฉพาะของรถอย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น จำเป็นต้องแยกแยะประเภทเชื้อเพลิงให้เข้ากับยานพาหนะของเรา น้ำมันแต่ละชนิดมีส่วนประกอบอะไรบ้าง คุณสมบัติของยานพาหนะที่เหมาะสมมีอะไรบ้าง สิ่งสำคัญคือน้ำมันประเภทไหนที่เหมาะกับรถเราที่สุด
การเลือกเชื้อเพลิงที่เหมาะสมสำหรับยานพาหนะของคุณเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษาปั๊มเชื้อเพลิงซึ่งมีหน้าที่ในการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังเครื่องยนต์ การใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผิดประเภทอาจทำให้เกิดปัญหาหัวจ่ายน้ำมันและอาจทำให้รถวิ่งได้ไม่ดี จึงควรตรวจสอบความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ระบุไว้บนฝาถังแก๊สก่อนเติมน้ำมัน
น้ำมันรถยนต์หรือเชื้อเพลิงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำงานของรถยนต์ เช่นเดียวกับอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกายของเรา น้ำมันเครื่องรถยนต์มีหลายประเภท โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามประเภทของรถและการใช้งาน
ประเภทน้ำมันรถมีอะไรบ้าง และแต่ละแบบนั้นแตกต่างกันอย่างไร เหมาะกับรถรุ่นไหน เรารวบรวมข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับคนรักรถ การเติมน้ำมันที่เหมาะสมและถูกต้องนั้นเป็นการดูแลรถอย่างดีทีเดียว รายละเอียดของน้ำมันที่เรานำมาฝากมีดังนี้
- เบนซิน ออกเทน 95
- เบนซิน ออกเทน 91
- แก็สโซฮอล์95 (E10)
- แก็สโซฮอล์91 (E10)
- แก็สโซฮอล์ E20
- แก็สโซฮอล์ E85
เบนซิน ออกเทน 95 (น้ำมันสีเหลือง)
เบนซิน ออกเทน 95 คือ น้ำมันรถชนิดนี้เป็นน้ำมันที่มีคุณภาพสูงสุดและมีราคาแพงที่สุดด้วย โดยมีค่าไอโซออกเทน 95% ซึ่งช่วยเพิ่มการจุดระเบิดและการเผาไหม้ และช่วยป้องกันเครื่องยนต์น็อค เหมาะสำหรับรถยนต์เครื่องยนต์เบนซินทุกรุ่น
*หมายเหตุ เบนซิน 95 ใช้กับรถยนต์แบบไหนได้บ้าง : สามารถใช้ได้กับรถยนต์เกือบทุกประเภท
เบนซิน ออกเทน 91 (น้ำมันสีแดง)
เบนซิน ออกเทน 91 คือ รถยนต์ส่วนใหญ่ที่มีเครื่องยนต์เบนซินสามารถใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 91% ได้ ยกเว้นรถยนต์ที่ต้องการน้ำมันเบนซินออกเทน 95 โดยเฉพาะ การใช้ค่าออกเทน 91 ในรถที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดปัญหาเครื่องยนต์ได้ เช่น การสะดุด รอบเดินเบาที่หยาบ และสมรรถนะต่ำ
*หมายเหตุ เบนซิน 91 ใช้กับรถยนต์แบบไหนได้บ้าง : ใช้ได้กับรถทุกคัน เว้นแต่รถที่ระบุไว้ว่า “เติมน้ำมันชนิด เบนซินออกเทน 95 เท่านั้น” เพราะหากเติม เบนซิน 91 ลงไป อาจจะส่งผลต่อสมรรถนะรถ รถยนต์อาจมีอาการสะดุด
แก็สโซฮอล์95 (E10) (น้ำมันสีส้ม)
แก็สโซฮอล์95 (E10) เป็นส่วนผสมของน้ำมันเบนซินออกเทนเบส 95 และเอทานอล โดยมีอัตราส่วนน้ำมันเบนซิน 9 ส่วนต่อเอทานอล 1 ส่วน สิ่งสำคัญคือต้องใช้น้ำมันนี้กับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ออกเทน 95 เท่านั้น นอกจากนี้ไม่ควรใช้กับรถยนต์ที่จอดไว้เป็นเวลานานเนื่องจากปริมาณเอทานอลอาจทำให้น้ำมันระเหยและเสียได้
แก็สโซฮอล์91 (E10) (น้ำมันสีเขียว)
แก็สโซฮอล์91 (E10) น้ำมันเบนซินที่มีค่าออกเทน 91 ผสมกับเอทานอลในอัตราส่วนน้ำมันเบนซิน 9 ส่วนต่อเอทานอล 1 ส่วน หากใช้น้ำมันเบนซินชนิดนี้ในรถยนต์ที่ไม่ได้มีไว้สำหรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อาจเกิดผลเสียได้ เช่น การกัดกร่อนจากเอทานอล ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการรั่วในโอริงของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิงหรือหัวฉีด อย่างไรก็ตาม แก๊สโซฮอล์ 91 มีข้อดีเนื่องจากมีราคาถูก
แก็สโซฮอล์ E20 (น้ำมันสีน้ำตาล)
แก็สโซฮอล์ E20 คือ น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอล 20% และน้ำมันเบนซิน 80% โดยมีค่าออกเทนอย่างน้อย 95 เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2551 เป็นต้นมา หรือผลิตหลังปี 2008 นั่นเอง แต่สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบว่ารถของคุณเข้ากันได้ก่อนใช้งานหรือไม่ การใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 อาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อรถของคุณได้ อย่างไรก็ตามข้อดีประการหนึ่งของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 คือความคุ้มค่าคุ้มราคา
แก็สโซฮอล์ E85 (น้ำมันสีม่วง)
แก็สโซฮอล์ E85 คือ น้ำมันเป็นส่วนผสมของเอธานอล 85% และน้ำมันเบนซิน 15% ควรใช้เฉพาะในยานพาหนะเชื้อเพลิงแบบยืดหยุ่น FFV (Flexible Fuel Vehicle) เว้นแต่รถของคุณจะระบุไว้ ห้ามเติมแก๊สโซฮอล์ E85 โดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้โอริงปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง หรือหัวฉีดเกิดการรั่ว และท่อยางเสียหายได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เครื่องยนต์ช้าลง สตาร์ทติดยาก และอัตราเร่งไม่ดี เครื่องยนต์จะเร่งไม่ขึ้น ข้อดีของการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 คือ สามารถเติมน้ำมัน อีก 5 ชนิดก่อนหน้านี้ได้หมด เทียบเท่ากับน้ำมันเบนซินออกเทน 95 แต่ราคาถูกกว่า
*หมายเหตุ
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ใช้กับรถยนต์แบบไหนได้บ้าง : ควรใช้กับรถยนต์ที่ที่มีการระบุชัดเจนว่าสามารถเติม แก๊สโซฮอล์ E85 ได้เท่านั้น การใช้งานกับรถยนต์ที่ไม่รองรับการเติมเชื้อเพลิงประเภทนี้อาจทำให้เกิดปัญหา เช่น ปัญหาการเร่งความเร็วของเครื่องยนต์ หรือการกัดกร่อนของชิ้นส่วนเครื่องยนต์
ขอบคุณข้อมูล : www.asiadirect.co.th , สำนักงานพลังงาน